ทางด้านนางสาวประชิต เตมียะเสน ป้าของปอ ทฤษฎี เผยว่า ตนเคยเป็นพยาบาล ตอนนี้ได้เกษียณอายุแล้ว ทุกคนในครอบครัวรักกันมาก คอยช่วยเหลือดูแลกันตลอด ปอจะเป็นคนที่ยอมทุกข์เพียงคนเดียว เพื่อหวังให้คนรอบข้างมีความสุข ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรปอจะเก็บไว้คนเดียว ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน เขาได้บริจาคร่างกายตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ และปอก็ได้เป็นอาจารย์ใหญ่ตั้งแต่วันที่เสีย เพราะทางแพทย์ก็ได้ศึกษาตอนนั้นเลย ตอนที่ปอได้รับการรักษาอยู่ ปอ ก็ได้เป็นเคสให้กับทางแพทย์ได้ศึกษา เนื่องจากว่าทางแพทย์ไม่เคยเจอเคสอย่างนี้มาก่อนและถือว่าเป็นเคสที่รุนแรงที่สุด ปอ เปรียบเสมือนว่าเป็นครูหมอก็ว่าได้ และปอก็ได้เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงพยาบาลรามาธิบดี และอาจารย์ใหญ่ของทุกๆคน
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 58 ปอหายใจเองได้ และถอดเครื่องช่วยหายใจออก พูดคุยกับทุกคนอย่างปกติ จนกระทั่งวันที่ 9 ธ.ค. 58 ปอเริ่มทรุดลง ช่วงเวลาที่ผ่านมา 5 วัน ปอได้สั่งเสียไว้ทุกอย่างแล้ว
ในส่วนของโบว์ ภรรยา ตอนนี้ทางครอบครัวพยายามให้กำลังใจ โบว์ยังทำใจไม่ได้ สำหรับความรักของโบว์กับปอ จริงๆแล้วเหมือนรักแรกพบ ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ปอเจอโบว์ครั้งแรกก็รักเลย รักตั้งแต่โบว์ยังไม่แต่งงาน ตอนที่โบว์แต่งงานปอเองก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งปอไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลย เพราะปอรักโบว์คนเดียว
ทั้งสองคนกลับมาเจอกันอีกครั้ง เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์ เพราะตอนนั้นโบว์ได้หย่ากับสามีแล้ว ปอเลยเข้ามาสานสัมพันธ์ เพราะความรัก ปอไม่สนใจอดีต มองแต่ปัจจุบัน และไม่สนใจใครจะว่าอย่างไร เพราะโบว์คือรักแท้ของปอ จนโบว์สามารถพิสูจน์ให้ทุกคนในครอบครัวเห็นว่าทั้งสองรักกันจริงจนทุกคนในครอบครัวรักโบว์ และได้จัดงานแต่งเล็กๆที่พัทยา
ตอนนี้อยากให้ปอ สบายใจว่า ทุกคนในครอบครัวรักภรรยากับลูกมาก และยังมีบางอย่างที่ปออยากทำและยังไม่ได้ทำ คืออยากจะจัดงานแต่งอีกครั้ง โดยมีน้องมะลิเป็นสักขีพยานด้วย และอยากประกาศให้สังคมได้รับรู้ ปอพูดเรื่องนี้มาตลอด และหลังๆเริ่มเปิดตัวลูกสาวและภรรยา อยากให้ทุกคนได้รับรู้ว่า ปอ มีครอบครัวแล้ว และสิ่งที่ตั้งใจไว้ว่าจะจัดงานแต่งก็สายไปแล้ว
ที่มา : khaosod.co.th